เกาะฮาชิมะ

เกาะฮาชิมะ

เรื่องราวหลอนของเกาะที่ว่ากันว่ามีผีที่ดุที่สุดในโลก “เกาะฮาชิมะ” มาดูกันว่าที่นี่มีเรื่องเล่าผีอะไรน่ากลัวบ้าง ผีที่จุดไหนของเกาะนั้นดุร้ายเป็นพิเศษ? แล้วเกาะนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไร เหตุใดจึงกลายเป็นเกาะร้าง หรือเกาะนี้มีความลับอะไรกันแน่

รูปภาพ

เกาะฮาชิมะเป็นเกาะญี่ปุ่นตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งจังหวัดนางาซากิประมาณ 15 กิโลเมตร อันที่จริง เกาะแห่งนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่ากุนคันชิมะ จากระยะไกลดูเหมือนเกาะเรือรบ ขนาดใหญ่ ขนาดของเกาะไม่ใหญ่มาก แต่ก่อนมีผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่ห้าพันคน คือมีความหนาแน่นสูงมาก เดิมเกาะนี้เป็นเกาะเหมืองถ่านหินใต้น้ำ หลังนี้สร้างโดยมนุษย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2430 เจ้าของเกาะคือ Mitsubishi Corporation (บริษัทเดียวกับทุกวันนี้) เมื่ออุตสาหกรรมถ่านหินเฟื่องฟู คนก็ต้องมาทำงานที่เกาะ เมื่อเวลาผ่านไปผู้คนจำนวนมากมาที่เกาะจนเกาะมีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีทุกอย่าง เกาะนี้มีโรงเรียน โรงพยาบาล อพาร์ตเมนต์ ตลาด โรงภาพยนตร์ ฯลฯ เป็นเกาะที่ก้าวหน้าที่สุด แต่เมื่อหันมาใช้ก๊าซธรรมชาติแทนถ่านหิน ในที่สุดเกาะก็กลายเป็นกิจการร้าง เกาะจึงร้างเปล่า และเกาะนี้มีเรื่องราวสยองขวัญซ่อนอยู่ทั่วเกาะในทุกซอกทุกมุม เมื่อเกาะนี้อาศัยอยู่ ได้มีการตั้งศาลเจ้าบนเกาะนี้ซึ่งยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ศาลเจ้าฮาชิมะตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของเกาะ เมื่อมีคนเสียชีวิตจะมีการสวดศพที่ศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นสถานที่ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และเมื่อเกาะแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง ศาลเจ้าแห่งนี้จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดบนเกาะ มีการตั้งศาลเจ้าบนเกาะนี้ซึ่งยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ศาลเจ้าฮาชิมะตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของเกาะ เมื่อมีคนเสียชีวิตจะมีการสวดศพที่ศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นสถานที่ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และเมื่อเกาะแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง ศาลเจ้าแห่งนี้จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดบนเกาะ มีการตั้งศาลเจ้าบนเกาะนี้ซึ่งยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ศาลเจ้าฮาชิมะตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของเกาะ เมื่อมีคนเสียชีวิตจะมีการสวดศพที่ศาลเจ้าแห่งนี้ เป็นสถานที่ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และเมื่อเกาะแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง ศาลเจ้าแห่งนี้จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่ากลัวที่สุดบนเกาะ

รูปภาพ

ที่ต่อไปบนเกาะที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือ Apartment หมายเลข 65 ณ จุดนี้เป็นหนึ่งในความทรงจำของเกาะ เป็นอาคารที่หลายร้อยครอบครัวอาศัยอยู่ ถึงเก้าชั้นและเรื่องราวของคนที่เจอผีในบริเวณนี้ตั้งแต่ได้ยินเสียงเด็กที่ได้ยินเหมือนคนพูด และยังมีเรื่องเล่าว่า เมื่อเดินคุณอาจได้ยินเสียงฝีเท้าที่มองไม่เห็น หรืออาจถูกมองว่ามีใครซ่อนอยู่หลังหน้าต่าง นอกจากอพาร์ตเมนต์นี้แล้ว ยังมีอาคารอพาร์ตเมนต์อีกหลังหนึ่งที่อยู่บนเกาะมาหลายร้อยปีแล้ว และหลายคนแม้จะไม่ได้เห็นผีแต่บรรยากาศในอาคารเหล่านี้ก็น่ากลัวมากอยู่แล้ว เกาะแห่งนี้ยังมีโรงเรียนที่มีผีสิงมากที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นอีกด้วย ตามตำนานของญี่ปุ่นนั้น แต่ละโรงเรียนในญี่ปุ่นมีเจ็ดเรื่องผี เช่น ผีฮานาโกะในห้องน้ำ หุ่นเชิดที่มีชีวิต ฯลฯ แต่สำหรับโรงเรียนบนเกาะนั้น ไม่จำเป็นต้องมีครบทั้งเจ็ดเพื่อให้ได้อันดับสยองขวัญอันดับหนึ่ง เพราะความลับของเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยความตาย

รูปภาพ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2552 หลังจากที่เกาะถูกปิดไปนาน ญี่ปุ่นได้เปิดให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวเกาะแล้ว แต่มองเห็นได้เพียงบางจุดเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ญี่ปุ่นได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ UNESCO แล้ว เพื่อให้เกาะแห่งนี้เป็นมรดกโลก แต่ก็ได้พังทลายไปอย่างใหญ่หลวง เมื่อก่อนประวัติศาสตร์ของเกาะเป็นเพียงเกาะร้าง แต่ที่จริงแล้วเกาะนี้นอกจากจะได้รับฉายาว่าเกาะเรือรบแล้ว เป็นที่รู้จักกันในนาม “เกาะนรก” เพราะเป็นนรกของคนหลายพันคนที่อาศัยอยู่อย่างทาสบนเกาะนี้ ทำงานจนตายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในขณะนั้นมิตสึเป็นเจ้าของเกาะแห่งนี้ และบริษัททำงานร่วมกับรัฐบาล ในขณะนั้นนักโทษชาวจีนและเกาหลีถูกส่งตัวไปที่เกาะแห่งนี้ มาทำงานอันตราย เสี่ยงชีวิตไม่ได้รับสวัสดิการหรือความสงสารจากเพื่อนมนุษย์ก็จะไปทำงาน ป่วยหรือป่วยไม่มีใครสนใจ อาหารที่ทุกคนได้รับมีน้อยมาก ผู้ถูกจับกุมจำนวนมากไม่ใช่ทั้งทหารหรือผู้กระทำผิด ชาวบ้าน เด็ก และสตรี เหล่านี้คือคนบริสุทธิ์ ไม่มีทางหนีพ้นเพราะเกาะนี้มีท่าเรือเพียงแห่งเดียวที่เป็นประตูสู่โลกภายนอก ใครกล้าที่จะถูกกวาดไปในทะเลถูกโจมตี ปรากฎว่าญี่ปุ่นกำลังซ่อนความลับนี้อยู่ พวกเขายังกล้ายกเกาะนรกแห่งนี้ให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย เกาหลีใต้และจีนรวมตัวกันเพื่อประณามญี่ปุ่น เพราะที่นี่เป็นที่ที่คนจำนวนมากในประเทศของเขาต้องตาย ยังกล้ามาสู่มรดกโลก ดังนั้นยูเนสโกจึงต้องยอมให้ทุกคนเจรจากันเอง

รูปภาพ

สุดท้ายเรื่องก็จบลงที่ญี่ปุ่นต้องบอกโลกว่าพวกเขาทำอะไรลงไป ว่าเกิดอะไรขึ้นบนเกาะนี้ และเกาะนี้จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลก แสดงถึงยุคอุตสาหกรรมต้นของญี่ปุ่น และเป็นตัวอย่างของความโหดร้ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ทั้งแรงงานทาสและแรงงานเด็กสร้างเกาะแห่งนี้ และด้วยความตายของเกือบทุกจุดบนเกาะนี้จึงเชื่อว่ามีวิญญาณพยาบาทสิงอยู่ นอกจากนี้บนเกาะมีสิ่งที่เรียกว่า “บันไดสู่นรก” เป็นบันไดที่นำไปสู่ศาลเจ้าที่คนงานเหมืองเคารพนับถือ ว่ากันว่าเวลาเดินขึ้นบันไดนี้จะรู้สึกหมดหนทางและหดหู่เหมือนเดินอยู่ในนรก